โกโก้ ซูเปอร์ฟู้ด อาหารวิเศษ ตัวช่วย บำรุงสมอง เพิ่มความจำ และต้านอนุมูลอิสระ

โกโก้ ซูเปอร์ฟู้ด อาหารวิเศษ ตัวช่วย บำรุงสมอง เพิ่มความจำ และต้านอนุมูลอิสระ

ว่ากันว่า โกโก้ มีประโยชน์ที่เเสนสุดวิเศษ ถูกจัดให้เป็นซูเปอร์ฟู้ด

แหล่งอาหารชั้นยอด เหมาะสำหรับการกิน ชงดื่ม บำรุงร่างกาย และเป็นตัวช่วยในเรื่องสุขภาพให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะเมล็ดโกโก้ มีประวัติการนำมาใช้เป็นอาหาร ชงเป็นเครื่องดื่มมาอย่างยาวนาน แท้จริงเเล้วโกโก้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง กินอย่างไรถึงจะเหมาะสม และช่วยป้องกันโรคได้ เราลองมาดูกันค่ะ

 

โกโก้ ซูเปอร์ฟู้ด ในอดีตกาล

โกโก้ (Cocoa) เป็นอาหารประเภทถั่ว ที่มีส่วนประกอบทางเคมีมากกว่า 700 ชนิด ที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ และสรรพคุณทางยาต่างๆมากมาย ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

 

 

ฮิปโปเครติส ระบุว่า โกโก้ คืออาหารที่เป็นยาที่ดีที่สุด เพราะอุดมด้วยสารอาหาร และใช้ป้องกันรักษาโรคได้

ชาวชนเผ่ามายา นิยมดื่มโกโก้ เพราะมีคุณสมบัติทำให้สดชื่น และอารมณ์ดี เพราะมีคุณสมบัติที่สำคัญช่วยให้สมองหลั่งสารเคมี ทำให้รู้สึกมีความสุข

ชาวอาหรับโบราณ นิยมดื่มโกโก้ทั้งชายและหญิง ก่อนเข้าฮาเร็มเพื่อเสพสุขทางเพศ เพราะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความรู้สึกทางเพศได้ จึงกลายเป็นที่มาของการมอบช็อกโกเเล็ตเป็นของขวัญให้กับคนที่เรารัก

ในด้านพุทธศาสนา พระพุทธองค์ได้ทรง อนุญาติให้พระภิกษุดื่ม โกโก้ ได้เเม้ในยามวิกาล เพราะมีส่วนทำให้เกิดความรู้สึกของสุขภาวะที่ดี กระตุ้นการหลั่งสารเคมี ป้องกันการเกิดภาวะอาการซึมเศร้า

สำหรับในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน จึงได้ขนานนาม เเละเรียก เมล็ดโกโก้ ว่าเป็นยาวิเศษ เป็นซูเปอร์ฟู้ด ที่อุดมด้วยคุณค่าทางอาหาร เเละประโยชน์สุดเเสนมหัศจรรย์ที่ใครๆก็ต้องอยากลอง

 

 

6 ประโยชน์ของโกโก้ ที่คุณไม่ควรพลาด

 

1.ช่วยต้านอนุมูลอิสระ หรือแอนติออกซิเเดนท์

สาเหตุที่เมล็ดโกโก้ กลายเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด เพราะส่วนประกอบที่สำคัญ เช่น สารในกลุ่มโพลีฟีนอล ประกอบด้วย สารฟลาโวนอยด์ สารฟลาวานอล สารฟลาโวน สารไอโซฟลาโวน และสารแอนโทไซยามีน ซึ่งสารประกอบเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านการเกิดอนุมูลอิสระ (แอนติออกซิเเดนท์) ต้านการอักเสบ และป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดเเดงทั่วร่างกาย ส่งผลให้เซลล์ในร่างกายของเราเสื่อมน้อยลง แก่ช้า อ่อนเยาว์ อายุยืน

 

2.เพิ่มความจำ ป้องกันอัลไซเมอร์

ข้อดีของการดื่มโกโก้เป็นประจำ ยังมีที่ดีต่อสมอง คือทำให้ความสามารถจำ ความคิด การตัดสินใจ การรับรู้ การเรียนรู้ ตลอดจนความรู้สติดีขึ้น เเต่มีข้อเเม้ว่าจำเป็นต้องดื่มโกโก้ ในขนาดปริมาณที่สูงทุกวันติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือน โดยโกโก้จะมีผลต่อสมองส่วนความจำ คือ บริเวณฮิปโปแคมปัส ในทางกลับกันการดื่มโกโก้ในขนาดต่ำๆ จะไม่มีประสิทธิผลดังกล่าว

และยังมีรายงานวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า การดื่มโกโก้ วันละ ประมาณ 2 ช้อนชา อย่างเป็นประจำ มีผลทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาภาวะความจำเสื่อม ความจำถดถอยในผู้สูงอายุได้อีกด้วย

 

3. ช่วยอารมณ์ดี กระตุ้นความกระปรี้กระเปร่า

เพราะเมล็ดโกโก้ มีส่วนผสมของคาเฟอีน และสารธีโอโบรมีน ช่วยกระตุ้นสมองส่วนกลาง ทำให้สมองตื่นตัว ดังนั้น โกโก้และช็อกโกเเลต (ผลิตภัณฑ์จากโกโก้ที่มีส่วนผสมของนม เนย และน้ำตาลในปริมาณสัดส่วนที่ต่างกัน) จึงมีคุณสมบัติทำให้สมองของเราสดชื่น อารมณ์ดี เเละมีความสุข เพราะทำให้เกิดการหลั่งของสารเคมี สารสื่อประสาทต่างๆในสมอง ได้เเก่ สารโดปามีน สารเซโรโทนิน และสารเอนโดฟิน อีกด้วย

 

4. ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ

โกโก้และช็อกโกเเลต มีคุณสมบัติในการเพิ่มการหลั่งของสารเคมีในขณะที่มีอารมณ์รักเกิดขึ้นได้ เเละนอกจากนี้ โกโก้ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่มีกลิ่นและรสชาติที่จำเพาะ ทำให้ภายหลังในการดื่ม จะเกิดกลิ่นหอมในปาก ละมุนชุ่มชื่นลิ้น เพราะมีรสที่พิเศษจำเพาะ

 

5.ลดภาวะซึมเศร้า หลังหมดประจำเดือน

โกโก้มีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้มีการหลั่งสารเซโรโทนินในสมองเพิ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้นโกโก้จึงนิยมใช้กันในผู้หญิงหรือวัยระดู หรือนิยมใช้ดื่มในสตรีที่ช่วงหลังมีระดูใหม่ๆ เพราะเป็นช่วงที่ผู้หญิงมีการหลั่งสารเซโรโทนินในสมองปริมาณต่ำ นอกจากนี้เรายังพบว่า ผู้หญิงจะมีการตอบสนองต่อโกโก้ดีกว่าผู้ชายเพราะเป็นอิทธิพลมาจากฮอร์โมนเพศหญิงและการหลั่งสารเซโรโทนิน ส่งผลให้ โกโก้มีฤทธิ์ต้านอาการซึมเศร้าในผู้หญิงได้มากกว่าผู้ชาย

 

6.ลดความดันโลหิตสูง

มีข้อมูลงานวิจัยระบุว่า การดื่มโกโก้ปริมาณปานกลางหรือขนาดสูงมีผลทำให้ความดันโลหิตลดลง พร้อมกันยังช่วยลดระดับไขมันเลว และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

 

อย่างไรก็ตามการดื่มโกโก้ ให้ได้ผลดีต้องดื่มโกโก้ ในปริมาณที่สูงราววันละ 1,000 มิลลิกรัม ถึงจะได้ประสิทธิภาพที่ดี

 

 

HOW TO CHECK โกโก้แท้ คุณภาพสูง

โกโก้ได้จากเมล็ดของต้น Theobroma cacao tree นำมาผ่านกระบวนการตากแห้ง หมักและผ่านความร้อน คุณภาพของผงโกโก้ สามารถประเมินด้วยหลักการ 3 ข้อคือ

1.ปริมาณ โกโก้ บัตเตอร์ (Cocoa Butter) เป็นไขมันดี ที่มีสารแอนติออกซิแดนต์สูง ดังนั้น ยิ่งมีปริมาณสูงยิ่งมีคุณภาพและราคาสูง โดย แบ่งเป็น 2 เกรด

1.1 Low fat มี Cocoa Butter 10-12 เปอร์เซ็นต์

1.2 High fat แบ่งเป็น เกรดธรรมดา มี Cocoa Butter 20-22 เปอร์เซ็นต์ และ เกรดพรีเมี่ยม มี Cocoa Butter 22-24 เปอร์เซ็นต์

 

2.แหล่งเพาะปลูกและผลิตเมล็ดพันธุ์ ถ้าใช้เมล็ดโกโก้จากประเทศในทวีปแอฟริกา จะมีราคาสูงคุณภาพและรสชาติดีกว่า เมล็ดที่มาจากทางเอเชีย (อินโดนีเชีย และ มาเลเชีย)

 

3. มาตรฐานการผลิต ผลิตตามกระบวนการ “ Dutch Process” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตผงโกโก้คุณภาพดั้งเดิมของชาวดัทช์ ประเทศเนเธอร์แลนด์

 

ขอบคุณข้อมูล : Cacao Rich

อ้างอิง  บทความ โกโก้กับสมอง ในจุลสารเกลียวสัมพันธ์ ปีที่33 ฉบับที่ 3

ขอขอบคุณรูปภาพจาก unsplash
ขอขอบคุณรูปภาพจาก pixels
ขอขอบคุณข้อมูลจาก goodlifeupdate