กดจุด + อาหาร ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน เพิ่มพลังสมอง ชะลออัลไซเมอร์

กดจุด + อาหาร ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน เพิ่มพลังสมอง ชะลออัลไซเมอร์

เพิ่มพลังสมอง ในทางการแพทย์แผนจีน

สมองถือเป็นอวัยวะที่ช่วยควบคุมสติสัมปชัญญะ ซึ่งถ้าพูดถึงโรคทางสมองในปัจจุบันก็จะแยกเป็นโรคทางระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคพาร์กินสัน ลมบ้าหมู อัลไซเมอร์ ไมเกรน ฯลฯ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล เป็นต้น

 

หากพูดถึงสาเหตุของโรคทางสมองก็น่าจะมาจากการใช้ชีวิตไม่สมดุลและอายุที่มากขึ้น สมองจึงเกิดความเสื่อมไปตามเวลา

 

สำหรับแนวทางการรักษาโรคทางสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคพาร์กินสัน หมอจะควบคุมความดันเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในเลือดให้คงที่ โดยการ ให้ผู้ป่วยงดกินของมันของเผ็ด ส่วนทางด้านจิตใจ หมอก็จะช่วยให้ผู้ป่วยไม่เครียด ปรับจิตใจให้ผ่อนคลาย นอกจากนี้คือ การออกกำลังกาย

 

 

ป้องกัน + แก้โรคสมองด้วยการแพทย์แผนจีน

ในทางการแพทย์แผนจีนแนะนำให้ผู้ป่วยฝึกไท้เก๊ก ไทชิ หรือชี่กง เพื่อควบคุมระบบการไหลเวียนของเลือดและปรับลมปราณให้ทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีปาต๋วนจี่ ซึ่งก็ช่วยในเรื่องการปรับการไหลเวียนของเลือดและ ลมปราณเช่นเดียวกัน

 

 

ไท้เก๊กเป็นการออกกำลังกายที่เน้นการเคลื่อนไหวร่างกายเป็นวงกลม ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความสมดุลในร่างกายแล้ว ยังช่วยปรับการหายใจ เข้า – ออกให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นวงกลม นั่นเป็นเพราะว่า การไหลเวียนของเลือดลมเป็นลักษณะการไหลจากล่าง ขึ้นบนวนไป เหมือนกับสัญลักษณ์ของหยิน – หยางที่เป็นวงกลมหมุนไป รอบๆ ซึ่งก็คือการปรับสมดุลนั่นเอง

 

สำหรับท่าบำรุงสมอง หมอจะแนะนำให้ใช้หวีเคาะศีรษะทุกเช้า เพื่อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น จากนั้นก็จะเป็นการ กดจุดป๋ายฮุ่ยกับซื่อเสินชง

 

จุดป๋ายฮุ่ย ป๋าย แปลว่า ร้อย ฮุ่ย แปลว่า รวม ซึ่งแปลออกมา ได้ว่า เป็นจุดรวมพลังร้อยอย่างนั่นเอง ส่วนซื่อเสินชง ซื่อ แปลว่า สี่ เสิน แปลว่า สติสัมปชัญญะ และชง แปลว่า ความเฉลียวฉลาด ซึ่งการกดจุดนี้ก็จะช่วยเสริมความฉลาดและเพิ่มสตินั่นเอง

 

 

วิธีกดจุด

 

 

จุดป๋ายฮุ่ยนั้นอยู่กลางศีรษะ วิธีกดจุดคือ

ใช้นิ้วโป้งทั้งสองมือแตะที่ยอดใบหู

ยืดนิ้วกลางของทั้งสองมือมาประสานกัน คือ จุดป๋ายฮุ่ย

กดๆ คลึงๆ

จุดนี้เป็นจุดช่วยเพิ่มความจำ เวลาที่คิดอะไรไม่ออกก็สามารถกดจุดนี้ได้ การฝึกกดจะเป็นการฝึกจิตไปด้วย ให้เรารู้สึกเหมือนมีเชือกรั้งไว้กับคอ ซึ่งจะมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ทำงานออฟฟิศ ต้องใช้คอมพิวเตอร์นานๆ หรือก้มนาน ๆ จุดนี้เป็นจุดรวมพลังหยาง การกดก็จะช่วยดึงพลังนี้ขึ้นมาได้

 

 

จุดซื่อเสินชง คือ จุดที่ห่างจากจุดป๋ายฮุ่ยประมาณ 1 นิ้วออกไป 4 ทิศ คือ หน้า หลัง ซ้าย ขวา เมื่อกดร่วมกับจุดป๋ายฮุ่ยจะเพิ่มความฉลาด และเพิ่มสติไปด้วย โดยจริงๆ แล้วการใช้หวีเคาะศีรษะไปทั่ว ๆ แบบที่หมอ บอกตอนแรกก็ช่วยได้เหมือนกัน

 

 

 

กินบำรุงสมอง

 

 

สำหรับผู้ที่อยากบำรุงสมอง หมอแนะนำให้กินแปะก๊วย โดยกินทั้ง ชนิดเม็ดและชนิดใบเลย เพราะทั้งสองชนิดให้สรรพคุณที่ต่างกัน แต่ใบ จะมีประโยชน์ในการบำรุงสมองมากกว่า ซึ่งก็จะมีในรูปแบบของชาที่หาดื่มได้

 

 

ฝังเข็มเยียวยาอัลไซเมอร์

 

 

ในกรณีที่มีภาวะสมองเสื่อมแล้ว เราสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อแก้อาการได้ เพราะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและกระตุ้นระบบการไหลเวียนของ เลือดในสมอง การฝังเข็มจะให้ประสิทธิภาพดีต้องทำทุกวัน ซึ่งจำนวน ครั้งต่อวันนั้นก็แล้วแต่โรงพยาบาลเลย ผู้ป่วยบางรายอาจต้องทำ 2 – 3 ครั้ง ต่อวัน การฝังเข็มมีประโยชน์มากโดยเฉพาะต่อผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต เพราะสามารถกระตุ้นหลอดเลือดที่ตีบได้ ทำให้ฟื้นตัวไวขึ้น

 

การฝังเข็มสามารถช่วยผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในระยะ เริ่มต้นได้ แต่ก็ต้องผ่านการตรวจก่อน โดยอาจจะต้อง ใช้ยาจีนร่วมด้วย

ส่วนใครที่ยังไม่มีอาการทางสมองและต้องการบำรุง สมองเพื่อป้องกันโรค แนะนำสำหรับแต่ละช่วงวัยว่า

 

วัยเด็ก ยังไม่มีอะไรต้องห่วง เพราะสมองยังอยู่ใน ช่วงพัฒนา เพียงแค่ต้องกินอาหารให้ครบและพักผ่อน ให้เพียงพอ

 

วัยรุ่น-วัยทำงาน วัยนี้ยังไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์ หรอก ส่วนใหญ่จะเป็นโรคเครียดกันมากกว่า แต่สิ่ง ที่สำคัญคือ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มี ประโยชน์ งดของมัน ลดการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เพื่อ ป้องกันโรคดังกล่าวในอนาคต รวมถึงโรคอื่นๆ ด้วย เช่น โรคหลอดเลือดสมองตีบ ไขมันในเลือดสูง เลือด ไหลเวียนไม่ดีไปเลี้ยงสมองไม่ได้ จนสุดท้ายสมองก็ฝ่อ

 

หากรู้สึกอ่อนเพลียหรือเครียด หมอแนะนำให้จิบ น้ำเปล่าบ่อยๆ เพราะสมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง ร้อยละ 80 เลยทีเดียว

 

วัยสูงอายุ สำหรับวัยนี้สมองจะเริ่มฝ่อถ้าไม่ได้ ใช้งานอย่างต่อเนื่อง เราเลยมักจะเห็นกลุ่มผู้สูงอายุใน ประเทศจีนชอบออกมาสังสรรค์กับเพื่อนๆ เล่นไพ่ นกกระจอกเพื่อฝึกให้สมองทำงานอยู่ตลอดเวลา สำหรับ ผู้สูงอายุในบ้านเราก็สามารถเล่นเกมลับสมองในสมาร์ทโฟน หรือเล่นเกมปริศนาก็ได้ ผู้ที่เป็นโรคส่วนใหญ่มีสาเหตุ มาจากการอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร กับกลุ่มที่มีปัญหา ถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจ เช่น สูญเสียสามีหรือ ภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานานแล้วรับความจริงไม่ได้เลยเลือก ที่จะลืมไปเลย

 

อย่าลืมว่า การจะดูแลสมองให้คงประสิทธิภาพไว้ ได้นานที่สุด เราต้องดูแลทุกๆ ด้าน ทั้งการกิน นอน ออกกำลังกาย และผ่อนคลายจิตใจค่ะ

 

 

คอลัมน์ หมอจีนประจำบ้าน นิตยสารชีวจิต ฉบับ 469

ขอขอบคุณรูปภาพจาก unsplash
ขอขอบคุณรูปภาพจาก pixels
ขอขอบคุณข้อมูลจาก goodlifeupdate